Last updated: 14 ม.ค. 2566 | 814 จำนวนผู้เข้าชม |
แผนงานสร้าง landmark สำหรับวัดป่าเจดีย์ทอง คิดแล้วทำ จากภูมิศาสตร์ที่ตั้งของวัดป่าแดงของเรานั้นต้องหาจุดสังเกตุที่ทำให้มีผู้คนสนใจวัดของเราเป็นอีก 1 ความท้าทายที่ผู้ใหญ่บ้านอย่างผมต้องคิดแล้วทำทันทีครับ ตามที่ผมบอกหมู่บ้านของเรานั้นเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เป็นทางผ่านสำหรับหลายหมู่บ้านที่ขับรถผ่าน ถึบจักรยาน ขับมอเตอร์โซค์ แล้วเราจะทำอย่างไรให้พวกเขาเหล่านั้นได้แวะที่วัด ทำบุญ ไหว้พระสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดของเราได้ นั่นสิทำอย่างไร ?
สิ่งที่เราคิดได้นั้นต้องเริ่มมองจาก งบประมาณ ก่อนเป็นอันดับแรก วัดเล็ก ๆ ห่างไกลความเจริญ ไม่มีอะไรโดดเด่นในหมู่บ้าน ผู้คนในหมู่บ้านก็น้อย หาเงินที่จะมาพัฒนาอะไรก็ยาก แต่สิ่งที่ผมคิดได้นั้นจะไม่พึ่งพาเงินหรืองบประมาณจากหน่วยงานอื่นมาช่วยเหลือ เพราะถ้ารอแบบนั้น อีก 100 ปีก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ในหมู่บ้านของเรา ผมในฐานะผู้ใหญ่บ้านจึงคิดว่าต้นไม้นี่แหละที่จะทำให้ผู้คนนักท่องเที่ยวได้สนใจวัดของเรามากขึ้น แล้วต้นอะไรล่ะที่จะดึงดูดคนได้พร้อมสร้างความร่มรื่นให้กับวัดของเรา
นางพญาเสือโคร่ง ( ภาพจากเนต ) เป็นไม้ดอกที่น่าสนใจเป็นอย่างมากและขึ้นตามภูเขาผมคิดว่าต้องทนแล้งอย่างแน่นอน จึงเป็นต้นไม้ที่ผมมองว่าน่าจะสร้าง แลนด์มาร์กให้กับวัดป่าแดงของเราได้เป็นอย่างดี เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างจุดสนใจให้กับวัดของเราและเป็นโครงการที่ต้องใช้เวลา อาจจะ 3 ปี หรือ 5 ปีกว่าจะออกดอก ออกผล แต่ถ้าเราไม่เริ่ม วัดเราก็จะไม่เกิดสิ่้งใหม่ ๆ สิ่งที่ผมคิดและทำก็เพื่อ ประโยชน์ต่อวัดและ พระในวัดของเรา แต่ในการปลูกต้นไม้นั้นไม่ลงทุนเลยก็เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างต้องมีการลงทุน ตรงนี้ ก็ต้องใช้งบประมาณของวัดที่มี แบ่งมาเพื่อการบำรุงดูแลวัดของเราให้เป็นจุดสนใจของผู้คน
เหตุผลที่ผมเลือกต้นไม้ในการสร้างแลนด์มาร์กคืออะไร ?
แผนการปลูกและดูแลต้นไม้เป็นอย่างไร ?
การดูแลต้นไม้ให้โตเป็นไปตามแผนหรืออาจใช้เวลาน้อยกว่า 5ปีนั้น เราต้องมีแผนการดูแลที่ดีและถูกต้องสม่ำเสมอ สิ่งที่ผมได้วางแผนให้กับทางวัดก็คือ อินทรีย์วัตถุ เนื่องจากบ้านของผมมีโรงสีที่มีแกลบดิบ รำหยาบ รำละเอียด แกลบดำที่ได้มาฟรี และกากน้ำตาลที่ใช้ไม่มากราคาไม่แพง ตรงนี้ผมออกให้กับวัดเอง คิดแล้วทำ โดยมีพระช่วยสานต่องาน เรื่องวัสดุอุปกรณ์ผมจัดการให้ โดยมีขั้นตอนการปลูกดังนี้เพื่อลดต้นทุน
นี้เป็นเพียง 1 โครงการที่ผมได้คิดไว้ โครงการที่ 2 รอเวลากันหน่อยครับ เดียวผมจะมาเฉลยว่าทำอย่างไรจะให้วัดมีรายได้ไม่ขาดในแต่ละปี อาจต้องลงทุนหน่อยแต่คุ้มค่าที่จะทำแน่นอน ผมได้สั่งต้นนางงพญาเสือโคร่งมา 60 ต้นโดยผมนำมาลงทดลองปุ๋ยอินทรีย์ที่บ้าน 5 ต้น หากดูแลแบบรอโชคชะตาไม่ได้การแน่นอนครับ ทำแล้วต้องมีแบบแผนรับมือกับธรรมชาติที่ดี
วันเริ่มงานวันที่ 13/1/2566
เริ่มหาระยะห่างการปลูกต้นไม้กันครับ ทั้งวัดก็มีพระอยู่ประจำ 2 รูปด้วยกัน ท่านเจ้าอาวาสและพระลูกวัด 1 รุป
หาแนวปลูกพร้อมวัดระยะห่างที่ดูสวยงาม ทั้งนี้ผมวางแผนระยะห่างไว้ที่ 7เมตร ต่อ 1 ต้นกะว่าไม่ให้พุ่มทับซ้อนกันมากจนเเกินไปเดียวต้นไม้จะสูงเกินความเป็นจริง
เตรียมขุดหลุมสำหรับปลูกต้นไม้ พื้นที่ดินในวัดมีความแข็งมาก ต้องค่อย ๆ เซาะแล้วขุดหล่อน้ำไว้
วันที่ 14 มกราคม 2566 วันเริ่มปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งครับ เป็นวันแรก จากการที่ต้องรอปุ่ยผสมเองตอนนี้ก็ซื้อดินปุ๋ยมาปลูก กลัวจะเสียเวลาเกินไป ทุกคนลงความเห็นกันว่าซื้อสำเร็จรูปมาปลูกก่อนดีกว่า
ก็ทำกันอยู่ 3 คน เจ้าอาวาส 1 หลวงพี่ลือ 1 ผู้ใหญ่บ้าน 1 ครับ ช่วงนี้ช่วงตัดอ้อยเข้าโรงงานชาวบ้านไม่ว่างกัน เราก็วางแผนทำอะไรได้ก็ทำกันไปก่อนครับ หลังตัดอ้อยเสร็จค่อยขอแรงชาวบ้านทำรั้วด้านข้างกันครับ